- หนึ่งมิตรชิดใกล้
- อ., 22 ก.ย. 63
สวัสดีครับมิตรชาวไร่ที่เคารพรักทุกท่าน สิ่งหนึ่งที่ผมมักพูดเสมอคือ การร่วมอยู่ร่วมเจริญ ระหว่างมิตรผลกับมิตรชาวไร่ทั่วประเทศ ซึ่งเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจเคียงบ่าเคียงไหล่พี่น้องเกษตรกรให้มีความมั่งคั่งยั่งยืนไปด้วยกัน แต่ความยั่งยืนของพวกเราจะไม่น่ายินดีเลย หากเราลืมคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
อย่างที่เราทราบและปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งแวดล้อมของโลกกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต ส่วนหนึ่งก็มาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทุกคนสังเกตไหมครับว่า สภาพอากาศแปรปรวนไปหมด ฝน ลม หนาว ปะปนกันทุกฤดู โดยเฉพาะอากาศร้อน ร้อนมากจนเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดจากก๊าซเรือนกระจกที่กระจายเต็มชั้นบรรยากาศ
ซึ่งมิตรผลเอง ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาความยั่งยืนอันดับที่ 1 ของโลก ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร เราได้สะท้อนถึงความตั้งใจและการลงมือทำอย่างจริงจังในการเดินหน้าพัฒนาความยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2050 ภายใต้การดำเนินงานในแนวคิด “เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไร้ค่าให้เป็นสิ่งที่มีคุณค่า” หรือ “From Waste to Value Creation” ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่หมุนเวียนใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แน่นอนครับว่าแนวคิดต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น มิตรผลจะเดินหน้าลุยเดี่ยวเพียงคนเดียวไม่ได้แน่นอน เราต้องอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องมิตรชาวไร่ของเราทั่วประเทศ ช่วยกันทำไร่อ้อยสมัยใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เริ่มง่าย ๆ ที่ตัวเราครับ ช่วยกันมองรอบตัว สิ่งไหนที่เราจะทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้บ้าง เช่น การตัดอ้อยสด 100% ไม่ตัดอ้อยเผาใบ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดการใช้น้ำด้วยการขุดบ่อบาดาล ใช้โซล่าร์เซลล์ ให้น้ำด้วยระบบน้ำหยด เปลี่ยนระบบไฟในไร่เป็นระบบ Solar Farm หรือจะมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่มองเห็นเป็นโอกาส ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ในไร่ของตนเองได้เลยครับ
อย่าลืมครับว่า ความยั่งยืนไม่ใช่ภารกิจของคนใดคนหนึ่ง แต่เราทุกคนต้องร่วมมือกัน
ลงมือทำคนละนิด สู่เป้าหมายอันยิ่งใหญ่ในการสร้างสังคมไร้คาร์บอน เพื่อวันข้างหน้าที่ไม่สูญเปล่าครับ
บรรเทิง ว่องกุศลกิจ